สรุป ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียน บทที่ 1-8 มีดังนี้
1.ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
2. สามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
3. ฃ่วยพัฒนาตนเอง ให้มีความรู้ ความสามารถ ในการใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศได้เป็นอย่างดี
4. สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
5. สามารถนำไปใช้ในการพัฒนางานธุรการและงานด้านต่างๆ ให้เป็นระบบ หมวดหมู่ สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการสืบค้น
วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
บทคัดย่อ: การวิเคราะห์ปัจจัยพหุระดับที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ.
วรรณภา ขำละเอียด : การวิเคราะห์ปัจจัยพหุระดับที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ. (AN ANALYSIS OF MULTILEVEL FACTORS AFFECTING THE KNOWLEDGE MANAGEMENT OF INSTRUCTORS IN FACULTY OF EDUCATION IN PUBLIC UNIVERSITIES) อ.ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก : รศ.ดร.อวยพร เรืองตระกูล, 174 หน้า.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์ระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะ ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ (2) วิเคราะห์ปัจจัยในระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ คณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวน 48 สถาบัน รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,205 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพหุระดับ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรมเอชแอลเอ็ม สรุปผลการวิจัยที่สำคัญได้ดังนี้
1) ผลการวิเคราะห์ระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง
2) ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ตัวแปรที่มีนัยสำคัญในระดับบุคคลได้แก่ ความตระหนักในคุณค่าของการจัดการความรู้ ระดับภาควิชา ได้แก่ การจัดเวทีลกเปลี่ยนความรู้ และการสื่อสารกับบุคลากรทุกฝ่าย และระดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ ภาวะผู้นำของผู้บริหารด้านการจัดการความรู้
3) ตัวแปรอิสระทุกระดับสามารถร่วมกันทำนายระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ได้ร้อยละ 37.92 โดยตัวแปรระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย สามารถทำนายได้ร้อยละ 22.98 14.67 และ 0.27 ตามลำดับ
ภาควิชา วิจัยและจิตวิทยาการศึกษา
ลายมือชื่อนิสิต
สาขาวิชา วิจัยการศึกษา
ลายมือชื่ออ.ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก
ปีการศึกษา 2551
ประโยชน์: ทำให้ทราบถึงระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐและปัจจัยในระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์ระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะ ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ (2) วิเคราะห์ปัจจัยในระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ คณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวน 48 สถาบัน รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,205 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพหุระดับ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ด้วยโปรแกรมเอชแอลเอ็ม สรุปผลการวิจัยที่สำคัญได้ดังนี้
1) ผลการวิเคราะห์ระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง
2) ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ตัวแปรที่มีนัยสำคัญในระดับบุคคลได้แก่ ความตระหนักในคุณค่าของการจัดการความรู้ ระดับภาควิชา ได้แก่ การจัดเวทีลกเปลี่ยนความรู้ และการสื่อสารกับบุคลากรทุกฝ่าย และระดับมหาวิทยาลัย ได้แก่ ภาวะผู้นำของผู้บริหารด้านการจัดการความรู้
3) ตัวแปรอิสระทุกระดับสามารถร่วมกันทำนายระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ได้ร้อยละ 37.92 โดยตัวแปรระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย สามารถทำนายได้ร้อยละ 22.98 14.67 และ 0.27 ตามลำดับ
ภาควิชา วิจัยและจิตวิทยาการศึกษา
ลายมือชื่อนิสิต
สาขาวิชา วิจัยการศึกษา
ลายมือชื่ออ.ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก
ปีการศึกษา 2551
ประโยชน์: ทำให้ทราบถึงระดับการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐและปัจจัยในระดับบุคคล ระดับภาควิชา และระดับมหาวิทยาลัย ที่ส่งผลต่อการจัดการความรู้ของคณาจารย์คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ผลการเรียนรู้บทที่ 6
ผลการเรียนรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางการศึกษา
1. ได้รับความรู้เรื่อง การเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์ บทเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการนำเสนอ
ทั้งในลักษณะการเรียนการสอนบนเว็บ และลักษณะบทเรียนออนไลน์
2. ได้รับความรู้ในเรื่อง โมบายเลิร์นนิ่ง เป็นการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย ซึ่งทำให้การเรียนรู้สะดวก รวดเร็ว โดยสามารถส่งและรับข้อมูล
ที่เป็นภาพ เสียง มัลติมีเดีย และเวบไซด์
3. ได้รับความรู้เรื่อง ห้องสมุดเสมือน ซึ่งเป็นการทำงานของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีโทรคมนาคม ผสมผสานกันกับการจัดการข้อมูล ทั้งข้อมูล
ในห้องสมุดและข้อมูลจากแหล่งความรู้อื่นๆ เป็นเสมือนประตูที่เปิดสู่ห้องสมุดหลายแห่งทั่วโลก
1. ได้รับความรู้เรื่อง การเรียนการสอนผ่านเว็บไซต์ บทเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการนำเสนอ
ทั้งในลักษณะการเรียนการสอนบนเว็บ และลักษณะบทเรียนออนไลน์
2. ได้รับความรู้ในเรื่อง โมบายเลิร์นนิ่ง เป็นการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย ซึ่งทำให้การเรียนรู้สะดวก รวดเร็ว โดยสามารถส่งและรับข้อมูล
ที่เป็นภาพ เสียง มัลติมีเดีย และเวบไซด์
3. ได้รับความรู้เรื่อง ห้องสมุดเสมือน ซึ่งเป็นการทำงานของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีโทรคมนาคม ผสมผสานกันกับการจัดการข้อมูล ทั้งข้อมูล
ในห้องสมุดและข้อมูลจากแหล่งความรู้อื่นๆ เป็นเสมือนประตูที่เปิดสู่ห้องสมุดหลายแห่งทั่วโลก
ผลการเรียนรู้บทที่ 5
ผลการเรียนรู้เรื่อง ความรู้พื้นฐานของนวัตกรรมการศึกษา
1. ได้รับความรู้เรื่อง นวัตกรรม นวัตกรรมทางการศึกษา ทั้งในเรื่อง ประเภท ขอบข่าย และแนวคิดพื้นฐานของนวัตกรรมทางการศึกษา เช่น ในเรื่องความแกต่าง ระหว่างบุคคล ความพร้อม เป็นต้น
2. ได้รับความรู้เรื่อง การสร้างนวัตกรรมการศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ข้อคือ
(1) โครงสร้างองค์กร
(2) บุคลากร
(3) กระบวนการ
(4) กลยุธ์และยุทธวิธี
(5) เครื่งมือและเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาซึ่งมีอยู่ 3 ระดับคือ
1. ความเป็นเลิศของบุคคล
2.ความเป็นเลิศของทีมงาน
3. ความเป็นเลิศขององค์กร
3. ได้รับความรู้เรื่อง หลักของนวัตกรรมการศึกษา การสร้างนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมทางด้านความคิดใหม่เป็นทุนทางปัญญา เพื่อให้องค์กรนั้นเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการสร้าง กล่องความคิด ทุนทางสติปัญญา และการบริหารนวัตกรรม
1. ได้รับความรู้เรื่อง นวัตกรรม นวัตกรรมทางการศึกษา ทั้งในเรื่อง ประเภท ขอบข่าย และแนวคิดพื้นฐานของนวัตกรรมทางการศึกษา เช่น ในเรื่องความแกต่าง ระหว่างบุคคล ความพร้อม เป็นต้น
2. ได้รับความรู้เรื่อง การสร้างนวัตกรรมการศึกษา ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ข้อคือ
(1) โครงสร้างองค์กร
(2) บุคลากร
(3) กระบวนการ
(4) กลยุธ์และยุทธวิธี
(5) เครื่งมือและเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาซึ่งมีอยู่ 3 ระดับคือ
1. ความเป็นเลิศของบุคคล
2.ความเป็นเลิศของทีมงาน
3. ความเป็นเลิศขององค์กร
3. ได้รับความรู้เรื่อง หลักของนวัตกรรมการศึกษา การสร้างนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมทางด้านความคิดใหม่เป็นทุนทางปัญญา เพื่อให้องค์กรนั้นเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยการสร้าง กล่องความคิด ทุนทางสติปัญญา และการบริหารนวัตกรรม
ผลการเรียนรู้บทที่ 4
ผลการเรียนรู้เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม การเมืองและเทคโนโลยีสมัยใหม่
1. ได้รับความรู้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ ช่วยสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่สะดวก ก้าวหน้า และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและการเมือง
2. ได้รับความรู้เรื่อง เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในการสร้างสารสนเทศในเรื่องการจัดการข้อมูลเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ อันจะนำไปสู่การพัฒนาสติปัญญา ซึ่งในการจัดการความรู้จะทำให้กระบวนการทำงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการพัฒนาและกระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ภายในองค์กรนั้น
3. ได้รับความรู้เรื่อง กลยุทธ์ กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ การวิเคราะห์กลยุทธ์ และการนำกลยุทธ์ ไปปฏิบัติ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว จะต้องมีการวิเคราะห์
กลยุทธ์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจทั้งปัจจัยที่เป็นสภาพแวดล้อมภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอก และรวมทั้งต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์
พันธกิจ และเป้าหมาย ให้ชัดเจน เพื่อให้องค์กรเกิดการพัฒนา มีความก้าวหน้า คล่องตัว และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยอาศัยเครื่องมือทางการจัดการที่สำคัญ ได้แก่ Balanced Scorecard
4. ได้รับความรู้เรื่อง การบริหารการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบกับ
ผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้วิธีการบริหารจัดการที่ดี และพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง
1. ได้รับความรู้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ ช่วยสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่สะดวก ก้าวหน้า และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและการเมือง
2. ได้รับความรู้เรื่อง เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในการสร้างสารสนเทศในเรื่องการจัดการข้อมูลเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ อันจะนำไปสู่การพัฒนาสติปัญญา ซึ่งในการจัดการความรู้จะทำให้กระบวนการทำงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการพัฒนาและกระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ภายในองค์กรนั้น
3. ได้รับความรู้เรื่อง กลยุทธ์ กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ การวิเคราะห์กลยุทธ์ และการนำกลยุทธ์ ไปปฏิบัติ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว จะต้องมีการวิเคราะห์
กลยุทธ์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจทั้งปัจจัยที่เป็นสภาพแวดล้อมภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอก และรวมทั้งต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์
พันธกิจ และเป้าหมาย ให้ชัดเจน เพื่อให้องค์กรเกิดการพัฒนา มีความก้าวหน้า คล่องตัว และประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยอาศัยเครื่องมือทางการจัดการที่สำคัญ ได้แก่ Balanced Scorecard
4. ได้รับความรู้เรื่อง การบริหารการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบกับ
ผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้วิธีการบริหารจัดการที่ดี และพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ผลการเรียนรู้บทที่ 3
ผลการเรียนรู้เรื่อง การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อตอบสนองความต้องการภาครัฐและเอกชน
1. ได้รับความรู้เรื่อง การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ ทั้งด้าน การวางแผน การตัดสินใจ และการดำเนินงาน
2. ได้รับความรู้เรื่อง ระดับการบริหารงานในองค์กร ซึ่งมี 3 ระดับ คือระดับสูง ระดับกลาง และระดับต้นหรือระดับปฏิบัติการ และลักษณะการตัดสินใจของผู้บริหารทั้ง 3 ระดับ
3. ได้รับความรู้เรื่อง ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร ซึ่งประกอบด้วยระบบสารสนเทศย่อยๆ 5 ระบบ ได้แก่ ระบบประมวลผลรายการ(TPS) ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ(MIS) ระบบสารสนเทศสำนักงาน(OIS) ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS) และระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูง(ESS)
รวมทั้งเรื่องการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
1. ได้รับความรู้เรื่อง การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ ทั้งด้าน การวางแผน การตัดสินใจ และการดำเนินงาน
2. ได้รับความรู้เรื่อง ระดับการบริหารงานในองค์กร ซึ่งมี 3 ระดับ คือระดับสูง ระดับกลาง และระดับต้นหรือระดับปฏิบัติการ และลักษณะการตัดสินใจของผู้บริหารทั้ง 3 ระดับ
3. ได้รับความรู้เรื่อง ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร ซึ่งประกอบด้วยระบบสารสนเทศย่อยๆ 5 ระบบ ได้แก่ ระบบประมวลผลรายการ(TPS) ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ(MIS) ระบบสารสนเทศสำนักงาน(OIS) ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ(DSS) และระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูง(ESS)
รวมทั้งเรื่องการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ผลการเรียนรู้สัปดาห์ที่ 1
1. ได้รู้ความหมายของคำว่าข้อมูลสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ
2. คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
3. โครงสร้างของระบบสารสนเทศ
4. การไหลเวียนของสารสนเทศ
5. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ
6. บทบาทของสารสนเทศต่อการพัฒนาการศึกษา
7. ห้องสมุดเสมือน
8. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ
9. บทบาทของผู้บริหารต่อการพัฒนาการศึกษา
2. คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
3. โครงสร้างของระบบสารสนเทศ
4. การไหลเวียนของสารสนเทศ
5. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ
6. บทบาทของสารสนเทศต่อการพัฒนาการศึกษา
7. ห้องสมุดเสมือน
8. นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ
9. บทบาทของผู้บริหารต่อการพัฒนาการศึกษา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)